Godzilla vs. Kong ก็อตซิลล่าในตำนานกลับมาอีกครั้ง จากผลงานกำกับโดย Adam Wingard ซึ่งในภาคนี้ถือว่าเป็นภาคต่อของ Godzilla: King of the Monsters (2019) และ Kong: Skull Island (2017) โดยจะเป็นการรวมตัวกันของสองสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ชื่อดังอย่าง Godzilla และ Kong มาเผชิญหน้าและต่อสู้กันครองความเป็นใหญ่ในดินแดนแห่งนี้
หนังได้เล่าเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในเรื่อง Godzilla: King of the Monsters ผ่านไปแล้ว 5 ปี โลกก็ได้พบกับความสงบสุขอีกครั้ง แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เมื่อสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวใหม่นามว่า Mechagodzilla ได้ปรากฏตัวขึ้นและเริ่มทำลายเมืองต่างๆ ทั่วโลก รัฐบาลโลกจึงต้องส่งทีมนักวิทยาศาสตร์และนักรบไปค้นหาสาเหตุและหาทางหยุดยั้งให้ได้
ด้านทีมนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดย Dr. Nathan Lind เชื่อว่า Mechagodzilla สร้างขึ้นโดย APEX Cybernetics บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่พยายามควบคุมโลก ทำให้ทีมนักวิทยาศาสตร์จึงเดินทางไปเกาะ Skull Island เพื่อพบกับ Kong สัตว์ประหลาดยักษ์ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งปีศาจร้ายตัวนี้ก่อนที่จะสายไป
ระหว่างทางก็ได้พบกับ Jia ลูกสาวของชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะ Skull Island ซึ่งก็เห็นได้ทันทีเลยว่าเธอนั้นผูกพันกับ Kong อย่างรวดเร็ว และเธอเชื่อว่า Kong ไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดที่อันตราย แต่เป็นเพียงผู้พิทักษ์โลก จนในที่สุดก็สามารถเกลี้ยกล่อมให้คองเข้าช่วยปราบ Mechagodzilla เพื่อกอบกู้โลกอีกครั้ง
จุดขายอย่างเดียวของภาคนี้ต้องยกให้กับฉากการต่อสู้ระหว่าง Godzilla และ Kong จริงๆ เพราะเป็นไฮไลต์สำคัญของร์เรื่องนี้ เราจะได้เห็นทั้งสองสัตว์ประหลาดต่างก็ใช้พลังและความสามารถของตนในการต่อสู้กันอย่างดุเดือด แม้จะเคลื่อนไหวได้ช้าเพราะมีขนาดยักษ์กันทั้งคู่ แต่ก็ถือว่ามันส์และลุ้นไปกับการช่วยกอบเหลือโลกจากความวุ่นวายจนเมืองแทบจะพังปั่นป่วนไปหมด ซึ่งต้องขอชมเลยว่าทำฉากแอ็คชั่นได้สมจริงมากทีเดียว
Godzilla vs. Kong ในภาคนี้ถือว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ประสบความสำเร็จจากแฟนๆ ผู้ติดตาม ได้ความมันส์ ตื่นเต้น และสมจริงมากๆ แต่ถึงแบบนั้นก็มีจุดตำหนิอยู่นิดหน่อย ที่เริ่มเรื่องค่อนข้างๆ เล่าได้แบบงงๆ จนหลายคนอาจจะเซ็งในช่วงแรกได้ แถมฉากหลังก็มีแต่แนวเดิมๆ หากเปลี่ยนให้มีหลายแบบก็จะทำให้ฉากแอ็คชั่นดูมีมิติมากขึ้นไปอีกขั้น