Oppenheimer (2023) เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติที่กำกับโดยผู้กำกับฝีมือดีอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน เล่าเรื่องราวของเจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ นักฟิสิกส์ชาวอเมริกันผู้เป็นผู้นำโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นโครงการลับของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการสร้างระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และนักชมเป็นอย่างมาก โดยได้รับคำชมในด้านการแสดงของนักแสดงนำ บทภาพยนตร์ กำกับศิลป์ และงานภาพ จนทำให้ Oppenheimer ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 12 สาขา รวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
Oppenheimer เป็นการเล่าเรื่องราวของ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ นักฟิสิกส์ชาวอเมริกันผู้เป็นผู้นำโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นโครงการลับของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการสร้างระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทั้งเขาและทีมนักวิทยาศาสตร์จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาทางเทคนิคและปัญหาทางการเมือง แต่พวกเขาก็มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างระเบิดปรมาณูให้ได้ จนในที่สุด เขาและทีมงานก็ประสบความสำเร็จในการสร้างระเบิดปรมาณูได้ในที่สุด และนำระเบิดปรมาณูมาใช้ทดสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 1945 ที่ทรินิตี้ รัฐนิวเม็กซิโก การทดสอบครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และมันทำให้โลกตระหนักถึงพลังทำลายล้างของอาวุธปรมาณู
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง และอเมริกาที่เป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้จากการมีอาวุธชีวภาพระเบิดปรมาณูดังกล่าว ออพเพนไฮเมอร์จึงรู้สึกผิดที่เป็นผู้คิดค้นการสร้างระเบิดปรมาณู เพราะลึกๆ แล้วเขาเชื่อว่าอาวุธร้ายแรงชิ้นนี้เป็นภัยภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ ซึ่งเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของหัวสมองเขาเอง เขาจึงตัดสินใจรับผิดชอบต่อโปรเจ็คนี้ที่เขาสร้างขึ้น ด้วยการยืนอยู่หน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา และถูกสอบสวนเกี่ยวกับบทบาทในการสร้างระเบิดปรมาณู พร้อมกับยอมรับความรับผิดชอบ แต่ก็ยังยืนยันว่าทั้งหมดนี้ก็เป็นการทำเพื่อปกป้องประเทศของเขาในตอนสุดท้าย
สำหรับเรื่อง Oppenheimer ต้องบอกว่ามีความโดดเด่นด้วยบทภาพยนตร์ที่เขียนขึ้นอย่างประณีตและละเอียดอ่อน บทภาพยนตร์ที่เน้นไปที่การถ่ายทอดแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน แต่ทำออกมาให้เข้าใจง่ายและน่าติดตาม ฉากการเล่าเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ในภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยความลุ่มลึก ความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์ แต่ก็เข้าใจง่ายกับคนดูมากทีเดียว ทั้งทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ที่เราจะได้เห็นออพเพนไฮเมอร์และนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ พยายามสร้างระเบิดปรมาณู จนพวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ปัญหาทางเทคนิคและปัญหาทางการเมือง แต่พวกเขาก็มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างระเบิดปรมาณูให้ได้
นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ในฐานะเครื่องมือแห่งการสร้างสรรค์และทำลายล้าง เพราะระเบิดปรมาณูเป็นผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ที่กลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างมา ในขณะเดียวกันก็ให้ทั้งประโยชน์และโทษที่ตามมาได้เช่นกัน ด้านการถ่ายทอดอารมณ์ก็ทำได้อย่างลึกซึ้ง ความรู้สึกของออพเพนไฮเมอร์ ที่ผู้ชมจะได้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ หลงไหล ในการสร้างอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมาให้ได้ และสุดท้ายก็จบลงด้วยความรู้สึกผิดต่อตัวเอง ทั้งๆ ที่ในทีแรกเขาทุ่มเทตัวเองเพื่อทำมันให้สำเร็จอย่างบ้าคลั่งเสียด้วยซ้ำ
ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องยกให้กับความทรงพลังและน่าประทับใจจริงๆ ทั้งการถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม การถ่ายทอดอารมณ์ที่สมจริงและเข้าถึงแก่นความรู้สึกของตัวละครได้ดีมากๆ แถมเรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นเครื่องมืออะไรก็ได้เท่าที่มนุษย์อยากจะทำให้เป็นออกมา ทำให้เป็นประโยชน์หรือโทษต่อมนุษย์ชาติเลยก็ได้ สุดท้ายหนังยังฝากให้เราตระหนักถึงภัยคุกคามของอาวุธนิวเคลียร์ เครื่องมือทำลายล้างที่หลายประเทศยังคงครอบครองอยู่ในปัจจุบันนี้